อันยองฮาเซโย !
เรากลับมาแล้วหลังจากห่างหายไปนาน 6 เดือน ปั่นงานหนักมากกกก และนี่คือเหตุผล “งานเสร็จต้องไปเที่ยว” เหลือบดูปฏิทินแล้ว จะว่างอีกทีเดือนพฤศจิกายน โอ้โห.. นี่มันช่วงพีคเลยนะ.. เหนื่อย จะไปเที่ยวที่ไหนได้ ฤดูกาลนี้ตั๋วแพงเหลือเกิน T-T
ระหว่างนั้น AirAsia เจ้าเก่า ก็ปล่อย ตั๋วไป-กลับ โซล แลก 500 Bigpoint ในราคาคนละ 6,593.33 บาท !! จองก่อนเดินทาง 2 เดือน เลือกเดินทางวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2558 (5วัน4คืน) ไม่นานเกินรอ ราคานี้ไม่ถือว่าแพงนะ เราจะได้ไปเจออากาศเย็นๆ สบายๆ ใบไม้เปลี่ยนสีไง…
ค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบิน
– ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ เกาหลีใต้ AirAsiaX 6,593.33 บาท
– น้ำหนักกระเป๋า 20 กก. ไป-กลับ 1,400 บาท*
– ประกันการเดินทาง 345 บาท
– สั่งอาหารล่วงหน้า ขาไป 150 บาท
– ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ขอนแก่น AirAsia 1,394.26 บาท
– น้ำหนักกระเป๋า 20 กก. ไป-กลับ 600 บาท*
ค่าใช้จ่ายโรงแรม
– Amari Don Muang Airport (1 คืน) 3,248 บาท*
– 24 Guesthouse Namsan แบบ Triple Room (3 คืน) 5,520.95 บาท*
ปล. ราคาที่มี * หาร 3 คนนะคะ
ค่าจิปาถะใหญ่ๆ
– เติมเงินบัตร T-money 10,000₩
– เช่า Pocket Wifi ของ LG U+ (5 วัน) Unlimited 34,000₩
– ค่ารถ Bus กลับสนามบิน 10,000₩
– แลกเงินไป 12,500 บาท (Superrich สาขาสยาม เรท 0.0323) เหลือกลับ 3,000!
ทริปนี้ดี๊ดี Korea Tourism Organization Thailand มีกิจกรรมแจกบัตร T-Money พร้อมเงินในบัตรมูลค่า 10,000₩ พี่ก็ดั้นด้นไปเอาถึงอโศกค่ะ
พร้อมแล้ว ไปเที่ยวกันเล้ยยย !!
Landing พร้อมสายฝน…
ตามป้าย Arrivals ไปเลย
ลงบันไดเลื่อนมา เราต้องขึ้นรถไฟสายสั้นๆ ไปยังอาคารผู้โดยสาร
ผ่าน ตม. ออกมาแล้วก็ลงมารับกระเป๋าเลย
พูดถึง ตม.เกาหลี
ส่วนตัวอิฟกับพี่นัทนั้น Passport รกอยู่แล้ว แต่พี่อ็อฟนี่ปั๊มแค่สิงคโปร์
แต่ก็ผ่านนะ ! ไม่เห็นยากเหมือนที่ใครเขาว่ากัน ไม่ถาม-ขอดูอะไรเลย โชคดีจัง
สิ่งที่ขาดไม่ได้ Pocket Wifi ภายในสนามบินมีหลายเจ้า ทั้ง LG/Olleh/SK พวกนี้
แต่เลือก LG u+ เพราะมีคนรีวิวเยอะ 555555
ไปที่เคาท์เตอร์ พนง.จะกางปฏิทิน เราก็จิ้มวันที่ไปและวันที่กลับ
แต่ต้องใช้บัตรเครดิตรูดมัดจำ เผื่อกรณีเราไม่คืนเครื่อง เขาจะตัดเงินทันที
จากนั้นเราก็ได้ตัวเครื่อง+สายชาร์จ+ซองใส่อุปกรณ์ (เออ..ลืมถ่ายรูปเครื่อง)
แบตใช้ได้นาน 3-5 ชม. ใช้สาย micro usb ชาร์จกับ powerbank ได้
จ่ายตังค์ตอนคืนเครื่องนะ ของอิฟนับเป็น 5 วัน จ่ายไป 34,000₩
Day 1 : Bucheon
ก้าวออกจากประตูสนามบินแล้วสัมผัสถึงอากาศหนาวมาก
พูดแล้วควันออกปาก ลมตีหน้าชา เย็นมือสุด
ชานชาลา 2A ขึ้นรถบัสสาย 302 ไปบูชอน ไปหาพี่ตุ๊กตุ่นกับฮานีกัน
วิธีใช้รถบัส
ขึ้นทีหลัง และทำตามคนข้างหน้า วิธีนี้ใช้ได้ทุกประเทศ 55555
ขึ้นมาปุ๊บ อื้อหือ ร้อนชิบหาย ถอดเสื้อกันหนาวรัวๆ
พี่ตุ่นบอกว่า มันคือแอร์อุ่น วินรถกันทั้งพี่นัทและพี่อ๊อฟ
ต้องแบกกระเป๋า 24″ ขึ้นมานั่งข้างๆ ไม่สบายเอาซะเลย
ก็เข้าใจนะว่าไม่ใช่สายเข้าเมืองหลวง T-T
พี่ตุ่นมารับแล้ว พานั่ง Taxi กลับบ้าน แต่ง VIP ซะด้วย
Taxi ที่นี่จะใช้รถ Hyundai แล้วตูดมันเล็ก ซึ่ง เรามีกระเป๋าเดินทาง 3 ใบ
~ ออตอกเค ~
เลยขอเขาว่าจะเอามานั่งกอดไว้ 1 ใบ.. จนได้
อาหารเย็นวันนี้ พี่ตุ่นพาจัด ร้านปิ้งย่าง (ชื่อร้าน 백종원본가)
ให้ผักมาหลายชนิด จัดจานสวยงาม แบบนี้น้องชอบบบบ
เครื่องเคียงมีมาให้ 4 อย่าง
ร้านนี้มีน้ำจิ้ม 2 แบบ ไม่เหมือนเจ้าอื่นจะได้แต่น้ำจิ้มข้นๆ
หมูสามชั้น ละมุนเหลือเกินนนน
สั่งบิบิมบับอีก เรียกได้ว่ามาวันแรกก็คุ้มแล้ว 5555
กระดูกหมูต้มกิมจิ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย ฮ่อล แซบเด้
ทานของคาวเสร็จ ด้านหน้าร้านเครื่องดื่มให้บริการ พวกชา กาแฟ
ช็อคโกแล็ตร้อน น้ำปั่นเกล็ดหิมะ บริการตัวเองนะจ๊ะ
ฮานีนางกินเมล่อนเกล็ดหิมะ นางว่าแซบ 5555
เช็คบิลวันนี้ประมาณ 80,000₩ เจ้เลี้ยง ขอบคุณคร้าบ ❤
Day 2 : Andong Jjimdak – Myeongdong Cathedral – Cheonggyecheon Stream – Gyeongbokgung – Kitty Cafe’ @Hongdae
อาหารเช้าฝีมือพี่ตุ่น ไข่เจียว ซุปเต้าหู กิมจิฝีมือฮัลมอนีทำแซ่บมาก
ถ้วยใหญ่เหมือนซุปกิมจิใส่ปลากระป๋อง และสาหร่ายเอาไว้ห่อข้าว
สวนสาธารณะข้างบ้านพี่ตุ่นนี่บรรยากาศดีสุดๆ
เปิดวาร์ปเข้า มยองดง เอากระเป๋าไปเก็บและเช็คอินที่พักแป๊บ
ที่พักชื่อ 24 Guesthouse Namsan มีหลายสาขาในโซล
เดินขึ้นทางชัดนิดๆ เป็นทางผ่านที่จะเดินไปขึ้น Cable Car
แต่ละชั้นมีไม่ถึง 10 ห้อง มีเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ผงซักฟอกฟรี
และมีราวตากผ้าแบบนี้ บริเวณทางพักตรงบันได
ห้องพักเลือกจองแบบ Triple ผ่าน Agoda เป็นเหมือนในรูปเลย
Wifi โคตรแรง มีเครื่องประจำอยู่แต่ละห้อง ตอนกลางคืนก็เงียบสงบดี
ห้องน้ำนี่เซ็กซี่สุดๆ เป็นกระจกติดสติกเกอร์ฝ้า วัดใจกันไปเลย 5555
ได้ผ้าขนหนูเล็ก 4 ผืน ไดร์เป่าผม แชมพู สบู่เหลว ไม่รู้ยี่ห้อแต่ห๊อมหอม
ข้อดี
- พนักงานเป็นมิตรมาก
- ใกล้แหล่งท่องเที่ยว (ตลาดมยองดง, N Seoul Tower)
- ใกล้รถบัสไป-กลับสนามบินอินชอน
- ร้านสะดวกซื้อ (Namsan Mart, CU, GS25, 7-Eleven)
- Wifi แรงมากจริมๆ
- ตอนกลางคืนเงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวน
- มีดาดฟ้า มองเห็น N Seoul Tower
ข้อเสีย
- ก่อนถึงที่พักต้องเดินขึ้นทางชัน
- ห้องน้ำเป็นกระจกติดสติ๊กเกอร์ฝ้า เซ็กซี่.. (เอาหมอนบังๆได้นะ)
Andong Jjimdak (안동찜닭) สาขา มยองดง ทางออก 8 ตรงดิ่งมาเลย
Heamul-Jjimdak ไก่รวมทะเล (สำหรับ 3-4 คน) 40,000₩
Boneless-Jjimdak ไก่ไม่มีกระดูก (สำหรับ 1-2 คน) 29,000₩
อร่อยเหมือนในรีวิวเลย ให้ 10/10 จ้า ต้องมาลอง
เทียบไซส์จานนะ สรุป กินไม่หมด 55555
ไม่น่าสั่งข้าวสวยมาตัดกำลังเลยย
มื้อนี้เช็คบิลไป 80,000₩
Myeongdong Cathedral
เขาบอกว่าตอนบ่าย 3 จะมีงานแต่งงาน อดเห็น T-T
ลงมาจากโบสถ์ เลี้ยวขวา จะเจอร้าน Myeongdong Croquette (명동 고로케)
คนต่อแถวเยอะมาก มันต้องฮิตแน่นอน (กลับมาไทยถึงรู้ว่าฮิตจริงๆด้วย)
พี่ตุ่นจัดให้ ไปต่อแถวซื้อมาอย่างละรส 55555
เดินกันไปเรื่อยๆจนถึง คลองชองเกชอน (Cheonggyecheon Stream)
ระหว่างทางที่เดินมาก็มีคนรวมตัวกัน เตรียมประท้วงอะไรเราก็ไม่รู้
เดินมาเรื่อยๆเริ่มมีเสียงจากลำโพง อห.กูฟังไม่ออกอยู่ดี 55555
เกิดมาก็ไม่เคยเจอกับตัว ก็ไม่รู้มันรุนแรงขนาดไหน
แวะเข้าห้องน้ำ เจอตำรวจตั้งแถวสแตนบาย.. ยัง กูยังไม่สะเทือน
ขึ้นมาเจอแบบนี้ ก็ยังใจเย็น เห็นยังมีคนเดินไปมา.. แหน๊ะยังไม่รู้สึก 555
ข้ามทางม้าลาย นึกในใจ ดีจัง ไม่มีรถเลย อ๋อจ้า เขาปิดถนนแล้ว..
ก็ชิลมากจนตำรวจเดินมาใกล้ๆแล้วพูดอะไรด้วยไม่รู้
มารู้ทีหลัง แทนบอกว่า ให้รีบๆไป เขาจะควบคุมบริเวณแล้ว อ๋อ…
Geongbokgung Palace
มาทันดูเขาเปลี่ยนเวรยามพอดีเลย และหลังจากนั้นเอง
ตำรวจกรูเข้ามาที่ประตูทางขวา กูนี่รีบวิ่งออกประตูทางซ้าย
เแทนบอก สถานการณ์ไม่ค่อยดี เรารีบไปจากจุดๆนี้กันเถอะ
หลังจากนั้นก็เป็นแบบนี้ สลายตัวแพร๊บ
Kitty Cafe’ สาขา Hongdae
คนเกาหลีกินกาแฟเก่งมาก และร้านกาแฟก็เยอะมาก
ทุกวันเลยได้กินแต่ Hot Chocolate เพราะไม่กินกาแฟ -_-” แก้วนี้ 4,500₩
ร้านมี 2 ชั้น ฮานีพาทัวร์
กลับไปนอนบูชอน พรุ่งนี้มีภารกิจไปเลาะกัน
กว่าจะกลับไปถึงบูชอน ใช้เวลาเกือบ 1 ชม. ท้องเริ่มหิว
พี่ตุ่นจัดรามยอนให้หม้อใหญ่ๆ บันเทิงก่อนนอน 5555555
Day 3 : 양수리 두물머리 – KOFIC Namyangju Studio
Let’s GO !! 양수리 두물머리
ชอบรถเกาหลีจัง รถพี่ตุ๊กตุ่นยี่ห้อ KIA ไม่รู้ชื่อรุ่น
มันดูดีมากๆ พวกเนวิเกเตอร์ มีบอกจุดกล้องตรวจจับความเร็ว
เวลาผ่านทางด่วนก็ไม่ต้องจอดนะ ขับผ่านไปเลย แล้วนางก็จะพูดยุบยิบอะไรฟังไม่ออก
ตามรอยซีรี่ย์เกาหลี เรื่องอะไรไม่รู้ พี่ตุ่นพามา 55555
สวยมากค่ะคุณผู้ชมมม ถ้ามาเที่ยวเองคงมาลำบาก เพราะค่อนข้างไกล
ใบไม้เปลี่ยนสียังมีอยู่ ถึงจะไม่บลูมมาก แต่ก็สวย ❤
มีจุดให้ถ่ายภาพด้วย
ไปต่อกันที่ KOFIC Namyangju Studio
ที่นี่เป็นโลเคชั่นไว้ถ่ายหนัง ซึ่งวันที่เรามานั้น KBS ก็มาตั้งกองถ่ายอยู่ อดเข้าโซนหมู่บ้านโบราณในภาพเลย อยู่ห่างจากที่แรกไม่ไกลนัก ขึ้นเขามาพอให้หูอื้อก็ถึงแล้ว
พักกองกินข้าวกันนะจังกึม
เดินไปยังโลเคชั่นถัดไป ขึ้นเขาไปอีกนานพอสมควร ชันพร้อมมม
นี่มันตามรอยซีรี่ย์ชัดๆ โคเรียจริงไรจริง บรรยากาศได้มากๆ 5555
เปิดวาร์ปเข้า โซล อีกครั้งงง~ คืนนี้มานอนโซลแล้วค่ะ
เราไปดู K-Live Hologram กันที่ ชั้น 9 ตึก Lotte FitIn
เป็นการจำลองคอนเสิร์ตของศิลปิน ควรไปก่อนเวลานะ เขาจะให้ถ่ายรูปก่อน
แล้วในการแสดงเขาจะสุ่มผู้โชคดี (ซึ่งเราเข้าเลท กินข้าวอยู่ T-T)
ในตอนสุดท้ายจะมีเบื้องหลังการทำคอนเสิร์ตของ GD
เพราะงั้นติ่งนางไม่ควรพลาด มั้ง!
ค่าบัตรเข้าชม
Day : 15,000₩ (Psy / 2Ne1 / GD)
Night : 33,000₩ (Psy / GD)
ตอนกลางคืนแพงกว่าแล้วยังได้ดูศิลปินน้อยกว่าอีก เอ๊ะ !!
Tips โหลดแอพ Visit Korea กดใช้คูปอง ได้ส่วนลด 20% นะ รายละเอียดดูเองนะ
Day 4 : Hangang Park – Yeouido Park – KBS
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วย ‘ฝน’ พูดได้ว่าเราเที่ยวโซลวันไหนวันนั้น ‘ฝนตก’
จำได้ว่าจากมยองดง เดินทางเกือบชั่วโมง เดินเปลี่ยนสายรถไฟเดินไกลมาก!!
เพิ่มความไกลเข้าไปอีก ด้วยการเดินผ่าน สวนยออิโอ (Yeouido Park)
เดินมาตั้งแต่ริมแม่น้ำฮัน ยาวๆมาจนถึง KBS ฝนก็ตกปรอยๆซะ
มาถึงแล้ว พาเด็กนัทมาทัศนศึกษาโน๊ะ
มีให้เล่นหลายอย่าง ตั้งแต่ Blue Screen รายการบันเทิง รายการข่าว จัดวิทยุ พากษ์เสียงการ์ตูน อะไรงี้ เห็นเด็กๆวัยอนุบาลมาทัศนศึกษาเต็มเลยยย
จะบอกว่าหลังจากนั้น ฝนตกจนถึงค่ำ สงสารกล้อง เลยไม่หยิบออกมาถ่าย
เราก็เลยจะตัดบทแบบนี้เลยแล้วกันค่ะ เล่าแบบไม่มีรูปมันไม่สนุกน่ะ :3
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะ ทริปนี้ทั้งฝนตก ทั้งหมุนโฟกัสกล้อง
ทริปหน้าจะรีวิวดีๆให้ตามเที่ยวได้ ติดตามต่อไปนะ อิอิ