กลับมาแล้น ร่างกาย Error ไปวันนึงเต็มๆ เหมือนกลับมาแต่ตัวยังไงยังงั้น
ครั้งแรกของประเทศมาเลเซีย ขออยากเที่ยวเมืองหลวงเค้าซะก่อน
นั่นคือ กัวลาลัมเปอร์ คราวนี้ไปจู๋จี๋กับพี่นัท 3 วัน 2 คืน 🙂
หลังจากที่หาตั๋ว+ที่พักอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ตกลงปลงใจ จองผ่าน Expedia.com
ตั๋วเครื่องบินราคา “ปกติ+วันหยุด” ส่วนที่พัก ราคา 700 บาท/คืน จองพร้อมกันถูกกว่านะ
ส่วน Internet ใช้ของ DiGi แพคเกจไหนไม่รู้แฮะ โทรกลับไทยได้ + 3G
บอกพนักงานว่ามาอยู่ 3 วัน เขาก็ทำให้เสร็จสรรพ จ่ายไป 200 บาท/sim
รวมค่าใช้จ่ายแล้ว รวม 2 คนอยู่ที่ประมาณ 16,000 แบบไม่ช็อปนะจ้ะ
คุยกันวันที่ 5 จองตั๋ววันที่ 6 เดินทาง 14 .. แทบไม่มีเวลาหาข้อมูลเพราะใกล้สอบมาก
อิฟปั่นงาน พี่นัทก็ทำงาน หนักสุดคือ ประเทศมาเลเซีย ไม่มี Google street view จ้าาาา
ปกติถ้าอิฟจะไป ตปท. ก็ backpack ตลอด เจอแบบนี้ทำให้ไม่มั่นใจเอามากๆ กลัวหลง
แค่ได้อ่านรีวิวใน bloggang กับเซฟแผนที่รถไฟฟ้าติดมือถือไว้ ก็ช่วยให้หายกังวลได้นิดนึง
พล่ามเยอะเกินไปแล้ว (อัดอั้นง่ะ) รีวิวเลยละกัน สงสารคนอ่าน เริ่ม!
Day 1 : DMK – LCCT – Cube Hotel – Central Market – Merdeka Square
ไปคราวนี้จำเป็นต้องเลือกช่วงเวลาที่สบายตัว และไม่ลำบากกระเป๋าสตางค์มากที่สุด
ออกจากสนามบินดอนเมือง ไฟลท์ 09.32 น. ถึง กัวลาลัมเปอร์ 12.47 น. (+1)
Air Asia เผื่อใครยังไม่ทราบว่า Expedia เค้าเป็นเอเจนต์ของหางแดงค่ะ
ได้เวลา boarding แล้ว ที่ Gate 22
ยังไม่ทันหลับก็ถึงซะแล้ว สนามบินกลางป่าแบบนี้ ภาพที่คุ้นเคยตอนมาต่อเครื่องไปญี่ปุ่น
หันหลังกลับมาเพิ่งเห็นว่าเครื่องที่นั่งมาเป็นลำนี้ ลายสวยจัง อุอิๆ (>_<)/
ลำนี้ลาย Expedia ก็สวย
รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็น 2 คนสุดท้าย ใจเย็นเกิน ไม่ทันชาวบ้านชาวช่องเค้าาา
หลังจากที่ฝ่าด่านตม. ใช้เวลาราวๆ 30 นาทีได้ค่ะ เลือกรถบัสเข้าเมืองกัน (ไม่จบง่ายๆ บอกเลยย)
จำได้ว่ามี AeroBus(เหลือง), SkyBus(แดง) บอกเค้าว่าไป KL Sentral นะคะ
ซื้อแล้วเดินออกมาเลย ไปทางโน้นนน ทางเดินที่มีหลังคายาวๆไปโน่นเลยย
อิฟเลือก AeroBus (8rm) เพราะมันถูกกว่าเจ้าอื่น อิอิอิ แต่ถ้าซื้อแบบไป-กลับจะถูกกว่านะ
ตั๋วรถจะไม่ระบุรอบ หรือชานชาลา เพราะงั้นไปตอนไหนก็ได้ตามใจ ตารางรถดูได้ในเว็บเค้าเลย
ด้านในรถเป็นแบบนี้ค่ะ (รีวิวอื่นๆเค้าบอกว่า AeroBus สภาพเก่ากว่า SkyBus นะ)
นั่งมาสักชั่วโมงก็ถึง KL Sentral แล้วค่ะ รถจอดที่ด้านล่างสถานีเลย
เราจะไปที่พักโดยขึ้น Monorail ไปลงสถานี Imbi สถานีนั้นหายากสำหรับมือใหม่อย่างเราจริงๆ
เดินไปกลับอยู่ 2 รอบ ไม่กล้าไปไกล สุดท้ายก็เดินตามคนไทยที่เพิ่งมาเหมือนกัน เนียนๆตามเขาไป
มาสถานี Monorail ให้เดินตามทางที่มีหลังคา ข้ามทางม้าลายเมื่อสักครู่ เดินมาทางขวา ก็จะเจอแบบนี้ค่ะ
การซื้อเหรียญ สามารถซื้อผ่านตู้ หรือจะซื้อกับพนักงานในช่องก็ได้นะ ภาพนี้เป็นชานชาลา รอกันไป
ลงที่สถานี Imbi นะคะ ลงมาฝั่งที่มองเห็นป้าย Starbucks กับ 7-eleven
(อีกฝั่งเป็นห้าง Time Square จะมีโลโก้ PUMA ตัวโตๆ)
เดินตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยกใหญ่ ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงมา สังเกตป้าย CUBE สีแดงค่ะ ถึงแล้วววว
ห้องพักไม่มีหน้าต่างนะคะ แต่สะอาดดีมาก คืนละ 700 บาท เอาไว้อาบน้ำกับนอนแค่นั้น ถือว่าโอเคมากก ทำเลดีด้วย เดินไปช็อปปิ้งสบายๆ
ปาไปบ่าย 2 หิวมากก ไปโผล่ที่สถานี Pansar Seni ลุยเลยยย มาถึง Central Market แล้ว
ข้ามถนนมา เดินด้านนอกก่อน มองซ้ายขวา เห็นฝรั่งในร้านนี้เยอะ แสดงว่า โอเค กินได้แน่ๆ จัดไป
ร้าน Restoran Yusoof Dan Zakhi เมนู Nasi lemak ayam, Roti canai กับ ชาชัก
ไม่ต้องสงสัย อิฟสั่งตามภาพ ชี้ๆสั่งๆ 5555 มื้อนี้สนนราคาที่ 200 บาทไทย
ด้านในของ Central Market จะเป็นพวกงานฝีมือ ของฝาก นู่นนี่นั่น ไปหาอ่านเองนะ
เลยไปหยิบแผนที่ที่ Information ด้านหน้าของ Central Market เป็นแผนที่พาเดินเที่ยว ป่ะ ลองดู
ออกมาทางด้านหลังของ Central Market เค้าบอกว่าเป็นหอนาฬิกาค่ะ
มุมสวยๆ มีโรงแรมแถวนี้ด้วยแหละ โรงแรมเล็กๆนะ อารมณ์ Hostel มั้ง
เรียกว่า Sultan Abdul Samad มั้ง สวยดี รู้สึกมาถึงมาเลเซียแล้ววว (*v* )~
เสียดายที่ จัตุรัสเมอเดก้า ปิดปรับปรุง (ขวา) เป็นมุมหนึ่งของเมืองที่สวยงามมากๆค่ะ
ไปกันต่อ เดินชมเมืองมาเรื่อยๆตอนนี้เริ่มเหนื่อยแล้ว รู้สึกไม่มีจุดหมาย อีกอย่างเหมือนฝนจะตกด้วย
ตู้ซื้อตั๋วทีนี้มีภาษามาเลย์กับภาษาอังกฤษ เลือกสถานี เลือกจำนวนตั๋ว จากนั้นคอนเฟิร์ม
แล้วใส่เหรียญหรือธนบัตร (ตอนนั้นจะขึ้นรถไฟกลับที่พักตอน 3-4 ทุ่ม เครื่องดันไม่รับแบงค์ 20 ขึ้นไป พนักงานก็ไม่ให้แลกอีก นี่ยังดีที่แบ่งเงินไว้วันละครึ่ง ไม่งั้นได้เดินไปแลกแบงค์ที่ไหนอีกไม่รู้ ระวังด้วยนะ)
ลงสถานี KLCC ขึ้นมาโผล่ที่ห้าง Avenue K ดีจริงๆ
Petronas Twin Towers ที่รอคอยมาทั้งวัน เห็นแล้วหายเหนื่อยเลย สูงมาก สวยมาก พอออกจากห้าง Avenue K ฝั่งร้าน H&M จะเห็นตึกแค่ด้านเดียวนะ เดินหามุมตามใจชอบเลยค่ะ
กลับมาสถานี Imbi ทีนี้ไปฝั่งห้าง Time Square บ้าง
ด้านในของหลายห้างยังประดับตกแต่งตรุษจีนอยู่ รูปม้าสีทองเต็มไปหมดเลย
หิวอีกแล้ว มาเจอร้านนี้ อยากกินตั้งแต่ไปสิงคโปร์ คราวนี้ตามใจพี่นัทเค้าเลย <3
Order ผ่าน iPad เก๋ๆ มื้อนี้สนนราคาที่ 500 บาทไทย อร่อยน้ำตาไหล อยากให้มีที่ขอนแก่น
ด้านหน้าของห้าง ตกแต่งเป็นเครื่องหมุนยักษ์ที่เคยหยอดกันตอนเด็กๆ นึกออกป่ะ 55555
Day 2 : Putrajaya – Shopping@Bukit Bintang – Jalan Alor Food Street
วันนี้จะไป ปุตราจายา ออกจากที่พัก 8 โมง อากาศก็ร้อนเหมือนเดิม
ต้องไปขึ้นรถไฟฟ้าสาย KLIA Transit ที่ KL Sentral ค่ะ
สังเกตด้วยนะว่าเราต้องขึ้นรถไฟฟ้าไปทางฝั่งไหน ไปทางสถานีอะไร
บางสถานีก็มีทางให้ลอด บางสถานีก็เป็นสะพานข้าม
นี่คือทางที่บอกว่าเป็นทางเดินเชื่อมระหว่าง KL Sentral กับ Monorail
พอเข้ามาจะเจอเคาท์เตอร์ที่ฝั่งขวามือ บอกเค้าว่าไป Putrajaya (9.80Rm) เสร็จแล้วก็ตี๊ดบัตรเข้าไปที่ช่องด้านซ้ายเลย
ด้านในของรถไฟฟ้า KLIA Transit
(อิฟนั่ง KLIA Express กลับ LCCT จะดีกว่าตรงที่ มีห้องน้ำในตัว แหงสิ แพงกว่า)
ลงที่สถานี Putrajaya/Cyberjaya
ด้านล่างจะเป็นสถานีขนส่ง มีรถบัสจอดเต็มชานชาลา ไหงช่องไปมัสยิสไม่มีรถจอด เซ็งเลย
จากนั้นจึงทราบว่ามีบริการพาทัวร์ของเมืองเอง (0.5Rm) พาไป 4 จุดของเมือง ถือว่าคุ้มมากๆ
สะพานแห่งที่ 1 ใน 3 ของเมืองปุตราจายา
การเข้าชมมัสยิดนี้จะต้องสวมชุดยาวคลุมเข่าทุกคน มีให้เช่าฟรีค่ะ เดินเข้ามาจะอยู่ฝั่งขวา
อาคารที่ทำการของนายกรัฐมนตรี
มุมสูงจาก Putrajaya International Convention Centre
สูงมาก มองลงมาเห็นวิวเมืองปุตราจายา สวยมากจริงๆ แดดแรงด้วย 55555
ทุกสถานที่ในเมืองนี้สูงและยิ่งใหญ่ไปหมด ต้องมองจากไกลๆถึงจะสวย
ดีที่ใช้เลนส์ Fisheye เลยเก็บภาพหมด อุอิๆ
ใช้เวลาทัวร์ไปประมาณ 40 นาที จะกลับละ ซื้ออะไรรองท้องก่อนไปหาอะไรอร่อยๆกินในเมือง
รสชาติเหมือนลูกชิ้นปลาระเบิด น้ำจิ้มเหมือนกันเลย 55555 แต่หน้าตาเหมือนหมูยอทอด
ซื้อตั๋วขากลับค่ะ หน้าตา KLIA Transit ก็เป็นแบบนี้แหละ มีป้ายบอกด้วยว่าอีกกี่นาทีรถไฟจะมาถึง
ถึงแล้ว ย่านที่มีห้างสรรพสินค้ามากที่สุดของเมือง เป็นสวรรค์ของนักช็อปเลยก็ว่าได้
ย่าน Bukit Bintang ห้างแรกที่ข้ามทางม้าลายมาคือ Lot 10 มี H&M ตัวโตๆอยู่ (จอรูปรูบิคบังมิด)
ต่อมาก็เป็นห้างฟาเรนไฮท์ บางห้างก็เชื่อมหากัน เดินจนขาลากกันไปข้างนึง
Pavillion เป็นห้างที่คนไทยรีวิวมากที่สุด 5555 มาทั้งทีก็ต้องไปสิเนอะ
เจอช็อตเด็ด คนจีนล้วงกระเป๋าชาวต่างชาติพอดี อ๊ากกก !@#$%
รปภ.วิ่งมาจากทั่วทั้งห้าง แสดงว่ามีเหตุการณ์แบบนี้บ่อยแหงๆ
Claypot with นู่นนี่นั่น อีกครั้งกับการซื้อตามฝรั่ง แต่แซบมากก ฟินจ้า อาหารที่มาเลย์อร่อย
ช็อปเสร็จเข้าที่พัก อาบน้ำ เพราะเหงื่อท่วมตัว ก่อนจะออกไปทานข้าวที่โต้รุ่งกัวลาลัมเปอร์
เดินมาจากที่พักเป็นฝั่งท้ายตลาด ตายแล้ววว เจอแต่ร้านอาหารไทย (-____-9)
ต้มยำกุ้ง น้ำมะพร้าว เห็นมีทุกโต๊ะเลยค่ะ
อีกอย่างมีร้านขายผลไม้ นักท่องเที่ยวชอบกินทุเรียน กินกันจริงจังมาก วางกองเต็มโต๊ะ
มื้อนี้ทานหมูสะเต๊ะ ผัดหมี่เหลือง ปีกไก่ทอด และหอยลายผัด อร่อยมากกกม๊ากกกกก!!
จากนั้นเดินย่อยไปช็อปปิ้ง (อีกแล้ว) ที่ Lot 10 แล้วก็กลับที่พักค่ะ
A = ที่พัก / B = Alor Food Street / C = Lot 10
แต่ละที่อยู่ใกล้กันมาก ถ้ารู้ว่าใกล้แบบนี้จะไม่ไปแย่งชาวบ้านขึ้นรถไฟฟ้าหรอกนะ งือออ
จบรีวิวแล้วนะ มีภาพอีกบางส่วนใน IG #EifMY นะคะ
ใครอยากไปถามข้อมูลได้ เอาเท่าที่อิฟไปนะ รู้เท่านี้นะ ยินดีช่วยเหลือค่ะ 😀